อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทุกปี ทำให้การลงทุนในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย เพราะหากนำเงินไปฝากธนาคาร อัตราดอกเบี้ยมักน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ หรือเทียบเท่า ในขณะที่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพยประเภทให้เช่า เนื่องจากอัตราค่าเช่าสามารถปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อได้ จึงทำให้หลายคนเช่อว่าการลงทุนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้ คือการลงทุนในสังหาริมทรัพย์ ยิ่งหากเลือกทำเลทองได้ โอกาสในการทำกำไรจะมีหลายทาง เช่น กำไรจากราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น และกำไรจากการปล่อยเช่าอสังหาริมทรััพย์
เมื่อกลุ่มชาวต่างชาติมีกำลังซื้อ ย่อมเลือกบริโภคสินค้าและทำเลที่ดีที่สุด และนี้ก็คืออีกหนึ่งเหตุผล ที่เราเห็นภาพนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์นิยมไปรอต่่อคิวจองซื้อคอนโดบริเวณทำเลทองรวมถึงสุขุมวิท ตั้งแต่วันเปิดโครงการวันแรก เพราะเขามองเห็นโอกาสในการลงทุนนั้นเองคะ
ถ้าจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเลือกทำเลทองได้แล้ว คราวนี้เรามาดู เทคนิคเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้มีกำไรสูงสุด กันต่อคะ โดยหมวยแบ่งออกเป็น 4 ข้อคะ
1. Location คือ เลือกทำเลที่ดีที่สุด ที่หาซื้อได้ไม่ง่าย ทำเลทองที่เป็นที่ต้องการของตลาด
2. Supply limit คือ หากทำเลที่เลือกลงทุนมีความต้องการขายที่ิดินหรืออสังหาริมทรัยพ์จำกัด ซึ่งอาจจะมาจากความจำกัดของทำเล เช่นที่ดินใจกลางเมืองที่มีน้อยและราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ หาซื้อไม่ได้แล้ว จะทำให้ราคาของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้ ปรับขึ้นได้สูงกว่าพื้นที่ทั่วไป
3. มีตลาดผู้เช่า คือ ทำเลที่เลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องมีตลาดของผู้เช่าอยู่แล้ว
เช่น บริเวณสุขุมวิท 24 ที่เป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ ย่านศูนย์การค้าและมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เยอะ
4. Product design คือ เมื่อเลือกที่ดินผืนเอกได้แล้ว ก็ต้องเลือกดีไซน์ของอสังหาริมทรัพย์ที่ดูโดดเด่น ดึงดูููดผู้เช่า หรือผู้ซื้อให้ได้มากที่สุด เช่น ดีไซน์แปลกใหม่ ไม่เคยมีในเมืองไทย ใช้วัสดุชั้นดี คงทน และประหยัดพลังงานในระยะยาว
เลือกทำเลได้ดี มีเทคนิคการลงทุนอสังหาริมทรัพย์แล้ว คราวนี้ก็อย่าลืมบริหารจัดการเม็ดเงินที่จะนำมาลงทุนนะคะ